7 เคล็ดลับ ขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ

มาดู 7 เคล็ดลับ ขจัดคราบสกปรกในห้องน้ำ ช่วยทุ่นแรงในการกำจัดปัญหาเชื้อโรคและความสกปรกให้หมดไป คืนความสะอาดให้ห้องน้ำของคุณให้สวยใหม่น่าใช้งานเหมือนเดิม

1. กระจกเงาขุ่น ขึ้นฝ้า

เกิดจากไอน้ำของเครื่องทำน้ำอุ่น ทำให้กระจกเงาและกระจกกั้นอาบน้ำขึ้นฝ้า และมักมีคราบสบู่ ยาสีฟันกระเด็นไปติดเป็นรอยเปื้อนอยู่บนกระจก หลังอาบน้ำควรเช็ดด้วยผ้าแห้งทำความสะอาดกระจกทันที หากทิ้งคราบเหล่านี้ไว้นานๆ ยิ่งทำให้มีคราบติดแน่น ให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดพ่น แล้วเช็ดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ หรือเลือกใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำส้มสายชูตาม ชุบด้วยฟองน้ำนุ่มๆ มาเช็ดถูเบาๆ

2. เชื้อราบนฝ้าเพดาน

เกิดจากความชื้นสะสมภายในห้องน้ำ ส่งผลให้ฝ้าเกิดคราบเชื้อราไม่น่ามอง จนอาจเกิดการผุพังลงมาของฝ้า ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าฝ้าที่ใช้เป็นชนิดใด เช่น ยิปซั่มบอร์ด ไฟเบอร์ซีเมนต์ ฯลฯ โดยชนิดของฝ้าที่พบปัญหาเชื้อราอยู่บ่อยครั้งก็คือยิปซั่มบอร์ด จึงควรลีกเลี่ยงการใช้ฝ้าชนิดนี้ตั้งแต่การเริ่มติดตั้ง สำหรับการแก้ไขหากมีเชื้อราเกิดขึ้นแล้ว ให้นำกระดาษทรายเบอร์ละเอียดขับคราบสกปรกออกเสียก่อน เพื่อให้ผิวฝ้าเรียบตรง แล้วอุดรอยโดยใช้เกรียงโป๊ปิดด้วยน้ำยาโป๊ยิปซั่ม เมื่อแห้งสนิท จึงขัดให้เรียบด้วยกระดาษทรายอีกครั้ง แล้วทาทับด้วยสีสำหรับทาฝ้าเพดาน สูตรที่ผสมสารต่อต้านการเกิดเชื้อรา และป้องกันแบคทีเรีย ควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศภายในห้องน้ำ ก็จะช่วยลดปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง

3. คราบตะกอน คราบตะกัน และหินปูน

คราบเหล่านี้มักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีน้ำเปิดใช้ เช่น ก๊อกน้ำ ฝักบัว โถสุขภัณฑ์ และจะเกาะตามซอกกระเบื้อง หรือติดตามมุมของอ่างล้างมือ อ่างอาบน้ำ บริเวณที่โดนน้ำซึมผ่านอยู่เสมอ ให้ใช้น้ำยาขจัดหินปูน หรือผงขจัดตะกรันมาขัดออก  แต่ถ้าคราบหินปูนเกาะแน่นมาก ให้ลองใช้ผงคลอรีนสำหรับฆ่าเชื้อในน้ำ ซึ่งหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เลี้ยงปลาสวยงาม นำมาละลายน้ำเจือจาง 1 ต่อ 5 แล้วราดทิ้งไว้บริเวณนั้นประมาณ 10 นาที จากนั้นนำเครื่องมือ เช่น เกรียง หรือไขควงปากแบน ค่อยๆแซะคราบหินปูนออกอย่างเบามือ

4. คราบสบู่และแชมพู

คราบสกปรกประเภทนี้ทำให้อุปกรณ์ภายในห้องน้ำประเภทโลหะ เช่น ก๊อกน้ำ ฝักบัว ที่วางสบู่ สายชำระ ฯลฯ ดูมัวหมอง ไม่เงางาม และเป็นสาเหตุให้เกิดการผุกร่อนตามมา จึงควรหมั่นเช็ดจนแห้งสนิทเป็นประจำ หากคราบฝังแน่น ต้องทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นก่อนหนึ่งครั้ง และใช้น้ำยาล้างจานผสมกับน้ำส้มสายชูเช็ดซ้ำ วิธีนี้ช่วยให้คราบหลุดออกได้ง่ายกว่า โดยไม่ต้องใช้แรงในการขัดมากนัก และใช้น้ำยารักษาผิวโลหะเช็ดเคลือบซ้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพียงเท่านี้ก๊อกน้ำก็จะดูใหม่วาววับกันแล้ว

5. คราบตะไคร่น้ำขึ้นตามพื้น

การทำห้องน้ำด้วยวัสดุปูนเปลือยมักเกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายกว่ากระเบื้อง เวลาเดินเหยียบอาจทำให้ลื่นล้มเป็นอันตราย จึงต้องหมั่นทำความสะอาด และดูแลรักษาให้ห้องน้ำแห้งอยู่เสมอ หากพบคราบตะไคร่น้ำ ให้ใช้น้ำเปล่าผสมผงซักฟอก แล้วขัดด้วยแปรงขนอ่อน และล้างน้ำสะอาด ปัจจุบันมีน้ำยากำจัดตะไคร่น้ำโดยเฉพาะวางจำหน่ายตามร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป สามารถนำมาทาจนชุ่มเพื่อเคลือบพื้นผิวปูนเปลือย ทิ้งไว้จนแห้งสนิท แล้วจึงทาทับอีกครั้ง ก็ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดตะไคร่น้ำซ้ำได้

6. ราดำตามร่องยาแนว และคราบขาวบนแผ่นกระเบื้อง

ปัญหานี้พบมากกับห้องน้ำแทบทุกครัวเรือน เพราะตามรอยยาแนวเป็นร่องลึก จึงทำความสะอาดยาก จึงเกิดเป็นคราบราดำ รวมทั้งมักพบคราบขาวบนแผ่นกระเบื้อง ห้องน้ำจึงดูสกปรกหมดสวย เราสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยใช้เบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชู แต่ต้องราดน้ำบนพื้นกระเบื้องให้เปียกเสียก่อน แล้วเทน้ำยาที่ผสมตามลงไป ทิ้งไว้สักพักจากนั้นจึงขัดล้างด้วยแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว เพราะเข้าถึงร่องเล็กๆได้ดีกว่าแปรงขัดห้องน้ำทั่วไป หรือเลือกใช้เคมีภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดร่องยาแนวโดยเฉพาะ ก็ทำให้ร่องยาแนวดูขาวเหมือนใหม่ แต่ต้องต้องใส่ถุงมือ และผ้าปิดปากป้องกันสารเคมีและกลิ่นฉุนก่อนทุกครั้ง

7. คราบเหลืองติดแน่นตามโถสุขภัณฑ์

คราบสีเหลืองที่ติดตามโถสุขภัณฑ์ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าดูเสียจริง ต้องรีบจัดการโดยเร็ว โดยเทน้ำยาสำหรับทำความโถสุขภัณฑ์ทิ้งไว้สักพัก แล้วใช้แปรงขัดทำความสะอาด ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำทิ้งหนึ่งครั้ง เพื่อป้องกันการกระเด็นของน้ำยาเคมีภัณฑ์ไม่ให้โดนร่างกาย หรืออีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือเทราดน้ำอัดลมทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้สารที่เป็นกรดทำปฏิกิริยากำจัดคราบสกปรกได้อย่างหมดจด และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน จากนั้นสำรวจดูความเรียบร้อย หากยังหลงเหลือคราบ ให้ใช้วิธีเดิมทำความสะอาดซ้ำอีกครั้ง

ขอบคุณสาระดีๆ จาก : https://bit.ly/2wq6BOf

Inhouse759
คอลัมน์ : ในเรือน (ฉบับ ก.ค. 59)
เรื่อง : “อาภาศรี มีมานะ”
ผู้ชวยกองบรรณาธิการ : เมธาวี เทวรังษี
ภาพประกอบ : ไอรินทร์ ธนพิชัยศิลป์